Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

นางครวญ สาวสะเดานางงามวชิราวุธานุสรณ์ 2504 กับเกร็ดประวัติที่น่าสนใจ

เริ่มโดย สงขลามีเดีย, 14:43 น. วันที่ 13 06 56

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

สงขลามีเดีย

ที่มา www.thaimiss.com

เรื่องจริงจากละคร!! ....จากละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ มีการประกวดนางสาวศรีสยาม 2504 ผู้ได้รับตำแหน่งคือ นางสาวกรองแก้ว บุญมี สาวงามจากอยุธยา แต่ตัวจริงในประวัติศาสตร์ ในปีนั้นการประกวดนางสาวไทยยังไม่ได้มีการกลับมาจัดในยุคที่ 3 เพราะปีสุดท้ายที่จัดก่อนหน้านั้นคือปี 2497 แต่ในปี 2504 มีการประกวดนางงามระดับประเทศที่เทียบเท่ากับเวทีนางสาวไทยคือ การประกวดนางงามวชิราวุธานุสรณ์ และนางงามที่ได้คำแหน่งในปีนั้นคือ นงคราญ โกลละสุต (ภาพขวา)

..นงคราญ เป็นเด็กสาวอายุ 18 ปี จากจังหวัดสงขลา นงคราญ หน้าตาคมขำโดยมีเชื้อฮอลแลนด์จาก ร.ต.อ บำรุง ผู้เป็นบิดา หลังจากได้ตำแหน่งเพียง 2 วัน นงคราญก็ได้เดินทางกลับไปยัง อ.สะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อไปเตรียมพิธีหมั้นกับแฟนหนุ่ม ร.ต.ต สมพร สีลยุวะ โดยมีข้อแม้ว่าจะสามารถแต่งงานหลังจาก 1 ปีที่เธอครองตำแหน่งนางงามวชิราวุธฯ แต่ก็ได้ถูกบรรดาแม่เล้า นายหน้าหลายคน ได้ตามไปยังบ้านเกิดของนงคราญเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เธอมาเป็นอนุภรรยา ของท่านผู้นำในยุคนั้นคือ จอมพลสฤษดิ์ ธนรัตน์ ..

ทางนายหน้าได้เข้าพบบิดาของนงคราญ โดยยื่นข้อเสนอกับ ร.ต.อ บำรุง ว่า ทางท่านผู้นำได้เสนอมอบเงินสดจำนวน 2 แสนบาท บ้านพร้อมรถยนต์ และย้าย ร.ต.อ บำรุง มาประจำที่กรุงเทพแทนที่ทำงานเดิมคือ ผู้บังคับกอง อ.สะเดา โดยบิดาของนงคราญได้ตอบตกลงด้วยดี แต่นงคราญก้ได้หนีเข้ากรุงเทพพร้อมคู่หมั่นหนุ่ม โดยไปพักที่บ้านญาติที่ประตูน้ำ แต่ทาง ร.ต.อ บำรุง ผู้เป็นบิดาได้ตามไปพบนงคราญพร้อมกับ สุมน สุมานันท์ แม่บ้านประจำตัวของจอมพลสฤษดิ์ เพื่อเกลี้ยกล่อมนงคราญก็ได้แต่ไปหลบหนีอยู่ในห้องน้ำบ้าง ห้องนอนบ้างซ่อนตัวไม่ให้หาเจอ และทางคู่หมั่นหนุ่มก็ถือปืนพร้อมขู่ว่าถ้าเข้ามาตนเองจะทำลายชีวิตคนที่เข้ามาพรากนงคราญจากเขาไป จนทำให้เหล่าแม่บ้านและแม่เล้า ถอยออกมา

...ด้วยความรักที่มั่นคงต่อนงคราญ ร.ต.ต สมพร สีลยุวะ คู่หมั่นหนุ่ม ได้พยามติดต่อกับผู้ใหญ่หลายคนเพื่อจัดพิธีหมั้น และก็สำเร็จในที่สุด โดยได้ จอมพลถนอม กิติขจร (ในขณะนั้นเป็นพลเอก) รองนายกรัฐมนตรี โดยหมั้นกันที่บ้านของ พลเอกถนอมนั่นเอง จากนั้น ร.ต.ต สมพร คิดว่าคงไม่มีการรังควาญจากเหล่าแม่เล้าอีก จึงได้เดินทางไปประจำที่ อ.สะเดา สงขลาเช่นเดิม หลังจากที่ลาราชการมาช่วยคนรัก

...แต่ความพยายามของบรรดาแม่เล้าก็ไม่ย่อท้อ แม้ว่าข่าวการหมั่นของนงคราญและ ร.ต.ต สมพร จะลง หนังสือพิมพ์กันอย่างคึกโครม เพราะมีการขึ้นของที่จะได้รับจากเงินสด 2 แสน เป็น 5 แสนบาท พร้อมของอื่นๆเช่นแหวนเพชร 5 กะรัต บ้านหลังใหญ่พร้อมโอน รถเบ๊นซ์ 1 คัน โดยมีการตั้งเงินรางวัลให้แม่บ้านและแม่เล้าที่เกลี้ยกล่อมนงคราญได้เป็นเงินจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ทำให้คนเหล่านั้นไม่ละความพยายาม

...จนในที่สุด หลังที่พ่อแม่และแม่เล้าสาย นางสุมน กล่อมนงคราญจนใจอ่อนจึงยอมเข้าไปพบจอมพลสฤษดิ์ โดยได้พาไปแต่งหน้าแต่งตัวสวยงามเพื่อนำไปพบท่านที่ บ้านวิมานหลังกองพลที่ 1 โดยมีผู้เป็นพ่อนั่งไปด้วย แต่ระหว่างนั้น นงคราญก็เปลี่ยนใจหลายครั้ง พยายามกระโดดรถหนี แต่พ่อของเธอก็พยายามรั้งไว้จนได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ เป็นผลสำเร็จ เมื่อได้พบกับท่าน นงคราญได้ขอร้องและกล่าวว่าตนมีคู้หมั่นแล้ว จอมพลสฤษดิ์ไม่ได้ขืนใจเธอ และยังให้โอวาทว่าให้เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี ถ้าหากนงคราญเดือนเนื้อร้อนใจอะไรสามารถเข้ามาขอร้องความช่วยเหลือกับท่านได้ตลอดเวลา โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จากนั้นนงคราญก้กลับบ้านไปโดย จอมพลสฤษดิ์ ไม่ได้แตะต้องตัวเธอแม้แต่น้อย

...จากคำพูดของลุกผู้ชาย สุภาพบุรุษเช่นจอมพลสฤษดิ์ ผู้นำประเทศในยุคนั้น นงคราญจึงทึ่ง และประทับใจในตัวท่าน ให้ความนับถือและไว้วางใจ จนกระทั่งนงคราญใจอ่อน และถ้านงคราญตัดสินใจเป็น อนุภรรยาท่าน ก็จะได้ทดแทนบุญคุณผู้เป็นพ่อ ไม่ต้องลำบากรับราชการที่ต่างจังหวัด ได้มาประจำในเมืองหลวง คิดได้ดังนั้น นงคราญจึงตัดสินใจเขียนจดหมาย ถึงร.ต.ต สมพร สั้นๆว่าเธอได้ตัดสินใจ เป็นอนุภรรยาของท่านแล้ว โดยสิ่งที่ นงคราญได้รับคือ เงินสด 5 แสนบาท รถเบ๊นซ์รุ่นใหม่ ตึกสีม่วงบนที่ดิน 150 ตารางวา แหวนเพชร 5 กะรัต 1 วง สร้อยเพชร 1 เส้น นาฬิกาฝังเพชร 1 เรือน เงินเดือนอีกเดือนและ 3 พันบาท รวมทั้ง ผู้เป็นบิดา ได้ย้ายจาก สงขลามาประจำที่กรุงเทพ โดยเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นนายพันตำรวจตรี ....

ข้อมูลจากหนังสือ "จอมพลของคุณหนูๆ"
สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy