[สงขลามีเดีย]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com
      
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบปุ๋ยปลอม 160 ตันที่ จ.สงขลา พร้อมแจ้งอายัด ขณะที่ สกย.แจ้งให้ผลการวิเคราะห์เตรียมส่งปุ๋ยที่ไม่ได้มาตรฐานคืนบริษัท ด้านชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เตรียมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุยอดปุ๋ยล็อตนี้ที่ถูกส่งไปทั่วประเทศ จำนวน 70,000 ตัน มูลค่าเกือบ 1,200 ล้านบาท

       จากกรณีชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย หรือ ชสยท. สั่งอายัดปุ๋ยจำนวน160 ตัน ที่เก็บไว้ภายในโกดังของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง เขต 1 จ.สงขลา หลังผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างปุ๋ยของกรมวิชาการเกษตรพบว่า เป็นปุ๋ยไม่เต็มสูตร หรือปุ๋ยปลอมนั้น
       
       ล่าสุด ในวันนี้ (18 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายถาวร วรรณกูล กรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ชสยท.) นายอภิเดช เชาวลิต ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) สงขลา เขต 1 และ พ.ต.อ.วีระสันฑ์ ธามเปี่ยม ผู้กำกับการ สภ.ทุ่งลุง ได้ร่วมกันตรวจสอบปุ๋ยทั้ง 160 ตัน ที่เก็บไว้ในโกดังของ สกย.สงขลา เขต 1 เพื่อตรวจนับจำนวน และอายัดเอาไว้ก่อน พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากในทางกฎหมายยังไม่สามารถดำเนินการทางคดีได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งเป็นเกษตรกรที่นำปุ๋ยไปใช้เข้าแจ้งความ ขณะที่ทาง สกย.สงขลา เขต 1 ก็ยังไม่ได้มีการรับมอบปุ๋ยล็อตนี้เพราะเป็นปุ๋ยไม่ครบสูตรต้องรอส่งคืนทางบริษัท
       
       ด้านฝ่ายส่งเสริมการสงเคราะห์ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้แจ้งผลการวิเคราะห์ตัวอย่างปุ๋ยเคมีสูตร 20-8-20 งวดส่งมอบที่ 2 จากรายงานผลทดสอบโดยสำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร มายัง สกย. ใน 7 จังหวัดภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล สงขลา พัทลุง และตรัง พบว่า ตัวอย่างปุ๋ยจากคลังเก็บที่ผ่านการวิเคราะห์ถูกต้องมีเพียง 2 แห่ง คือ สกย.สงขลา เขต 2 จำนวน 1 แห่ง และตรัง 1 แห่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือคือ จ.ยะลา ปัตตานี สตูล นราธิวาส และสงขลา เขต 1 ให้งดรับมอบปุ๋ย เพราะผลการวิเคราะห์ตัวอย่างไม่ถูกต้องตามคุณลักษณะ และเงื่อนไขการจัดซื้อ ต้องส่งคืน ส่วนคลังเก็บที่ผลวิเคราะห์ถูกต้องแล้วให้ดำเนินการจ่ายปุ๋ยให้เกษตรกรได้
       
       นายเพิก เลิศวังพง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง ชสยท. จะยื่นเรืองไปยัง ป.ป.ช. ซึ่งจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. กันในวันนี้ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตปุ๋ย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย มาตรา 30 เอาผิดกับผู้ผลิตปุ๋ยปลอม และผู้จำหน่าย
       
       นายเพิก กล่าวว่า ปัญหาปุ๋ยปลอมเกิดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี และเคยยื่นเรื่องไปยัง ป.ป.ช. รวมทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องยังเงียบ ซึ่งทางองค์กรชาวสวนยางทราบปัญหาดี แต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันเอาผิดได้ หรือไม่กล้าที่จะออกมารวมตัวเคลื่อนไหว เพราะมีความพยายามที่จะปกปิด และสกัดกั้นการเคลื่อนไหวมาตลอด ที่สำคัญเกษตรกรชาวสวนยางที่รับปุ๋ยจาก สกย. ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นปุ๋ยจริง หรือปุ๋ยปลอม
       
       นายเพิก ยังกล่าวอีกว่า สำหรับปุ๋ยตราแกรนนูลาร์ หมีคู่ ที่ผลิตโดยบริษัท แกรนนูลาร์ โฮลดิ้ง ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ระยอง ซึ่งเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผลิตปุ๋ยให้แก่ทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) นำมาแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศนั้น ในงวดนี้มีทั้งหมด 70,000 ตัน เป็นปุ๋ยสูตรผสม 30,000 ตัน ที่ถูกส่งมาในภาคใต้ รวมทั้งแม่ปุ๋ยที่นำไปให้องค์กรสวนยางในจังหวัดต่างๆ ทางภาคอีสาน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีสำนักงานของ สกย. ตั้งอยู่ เพื่อผสมเองอีก 40,000 ตัน รวมมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท