[สงขลามีเดีย]

การเมืองสิงหนครเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้วคอการเมืองคงจำกันได้ดีว่าเที่ยวนั้นแข่งขันกันดุเดือดมากและมีผลแพ้ชนะกันเพียง 1 คะแนนเท่านั้น น่าจะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองท้องถิ่นสงขลา นายกแป็ก เสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง อดีตนายกที่ครองตำแหน่งมาเกือบ 2 ทศวรรษจะลงป้องกันแชมป์อีกครั้งกับทีมงานคู่ปรับเก่าที่ส่ง หมัดแสล๊ะ เส็นลิหมีน ลงท้าชิง

ย้อนรอยผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนครเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ปรากฏว่านายเสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร หัวหน้าทีมสิงหพัฒนา หมายเลข 1 ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 9,245 คะแนน มากกว่า นายประเทือง นุสคง ผู้สมัครหมายเลข 2 หัวหน้าทีมเมืองเก่าพัฒนา ที่ได้ 9,244 คะแนน แพ้ชนะกันเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ส่วนของสมาชืกสภาเทศบาล ทีมสิงหพัฒนา ได้มาจำนวน 10 คน อีก 8 คน เป็นเก้าอี้ขอทีมเมืองเก่าพัฒนา

ต้นปีหน้า 2557 เมืองสิงหนครจะมีการเลือกตั้งอีกครั้งและว่ากันว่าเที่ยวการแข่งขันก็ยังเป็นของทีมสิงหพัฒนา ภายใต้การนำทัพของนายกคนเดิม เสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง ที่จะลงป้องกันแชมป์อีกสมัยแน่นอนว่าเที่ยวนี้แรงหนุนคงเยอะเป็นพิเศษเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน สท.บอย เสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง ได้ไปร่วมทีมฝ่ายบริหารในตำแหน่งรองนายก อบจ.สงขลา ร่วมกับนิพนธ์ บุญญามณี ทีมพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเสมือนเป็นกำลังเสริมสำคัญด้วย

เสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง ชื่อชั้นทางการเมืองถือว่าไม่ธรรมดาและยังเป็นเครือญาตินายกชาย วรวิทย์ ขาวทอง อดีตนายก อบจ.สงขลาอีกด้วย การเลือกตั้งเที่ยวนี้คอการเมืองว่ากันว่าเขายังเป็นตัวเต็งที่จะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง สำหรับคู่แข่งขันในรอบใหม่นี้ไม่ใช่คนเก่าแต่เป็นแรงหนุนจากทีมเก่าที่ลงสมัครในนามทีมเมืองเก่าพัฒนา

หมัดแสล๊ะ เส็นลิหมีน หัวหน้าทีมเมืองเก่าพัฒนา คนนี้ทำงานใกล้ชิดกับนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลาและยังมีแรงหนุนส่งกันอยู่แม้ว่าจะพ่ายในการเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และที่สำคัญเขายังเป็นนักอนุรักษ์และนักพัฒนาที่ชาวสิงหนครรู้จักกันเป็นอย่างดี ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ฟอร์มทีมดี มีลูกขยัน และเดินสายแบบไม่กลัวเหนื่อยก็คงไม่ใช่มวยรองห่างชั้นจากคู่แข่งแน่นอน

สำหรับเทศบาลเมืองสิงหนคร ถือเป็นย่านเมืองเก่าแก่สำคัญของจังหวัดสงขลา มีพื้นที่ 33.9 ตารางกิโลเมตร ประชากรนับถือศาสนาพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ส่วนการแข่งขันทางการเมืองนั้นไม่เคยมีความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่และนายกแป็ก ก็ยึดเก้าอีนายกมาถึง 5 สมัยติดต่อกันและคู่ปรับสำคัญก็เป็นทีมเมืองเก่าพัฒนามาโดยตลอด จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อปี 2553 มีจำนวน 25,839 คน เที่ยวนี้คาดว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งน่าจะแตะ 3 หมื่นคน

เมื่อยังไม่ถึงวันรับสมัครก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงเช่นไรบ้าง จะมีใครสนใจลงเวทีแข่งขันอีกหรือไม่แต่ที่แน่ๆ ชาวสิงหนคร คงเริ่มตื่นตัวรับการเลือกตั้งกันบ้างแล้ว ส่วนจะชอบใคร เลือกใคร เชียร์ใคร โปรดใช้วิจารณญาณของตัวเอง