[สงขลามีเดีย]

เส้นทางชีวิตไม่ธรรมดากว่าจะมาถึงวันนี้ของ...นุ้ย สุวีณา อาร์ สยาม

นุ้ย สุวีณา อาร์สยาม เป็นอีกหนึ่งศิลปินใต้ที่ผมติดตามผลงานเธอมาตลอดจากผลงานแรกที่ติดหูนั่นคือ บัณฑิตกรีดยาง ที่สะท้อนชีวิตความเป็นตัวตนคนใต้หลายๆ คน เติบโตมาได้เพราะต้นยาง อีกหนึ่งเสน่ห์ของนักร้องสาวคนนี้ในทุกเวทีการแสดงคือความเป็นกันเอง ตลก มุกเสี่ยวๆ บ้านๆ แฝงไปด้วยความจริงใจ และที่สำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่งนั่นคือ เธอเป็นศิลปินที่ขายเสียงอย่างแท้จริง ผมมีโอกาสไปดูการแสดงของเธอมา 2-3 ครั้ง แม้บางครั้งเป็นงานเล็กๆ คนดูไม่มาก เครื่องเาี่ยงไม่ดีเท่าไหร่แต่นุ้ย สุวีณา ก็ใส่เต็มที่ และมาในชุดผ้าโพกหัวกับกางเกงขายาวตลอด

วันนี้เห็นแว๊บๆ บนโซเชียลว่าจะมีเพลงใหม่ และเห็นมาดของนุ้ย ในลุกที่เข้มขึ้นกับเพลงรักเธอไม่ได้จริงๆ

นุ้ย สุวีณา อาร์สยาม สาวตาคม ผิวสีเข้ม มองป๊าดเดียวก็รู้ว่าเธอเป็นสาวใต้ เป็นสาวใต้ใจดั่งคนใต้ คบปุ๊ปจะรู้ว่าเป็น คนใต้ของจริง เป็นนักร้องก็ครองใจคนใต้ กี่ซิงเกิลที่ออกมา คนใต้พูดเหมือนกันว่า "หรอยแรง" นุ้ย บอกว่า คนใต้รักใครรักจริง แต่อย่าไปถามต่อว่า แล้วเกลียดล่ะ ... คำตอบก็รู้กันอยู่

ซิงเกิลใหม่ "รักเธอไม่ได้จริงๆ" นี้ นุ้ย สุวีณา อาร์ สยาม ทุ่มทั้งกำลังกาย กำลังใจเต็มที่ เธออยากลองทำอะไรใหม่ๆและเพื่อเป็นการสร้างความฮือฮาให้แฟนๆสักครั้ง รับรองไม่เคยเห็น นุ้ย สุวีณา แบบนี้มาก่อน มิวสิควิดีโอก็เต็มที่ นุ้ย รู้สึกขอบคุณนักแสดงทุกคน ผู้กำกับ ตลอดจนทีมงาน ครั้งนี้เป็นการทำอะไรที่ไม่เคยทำ แปลกใหม่ รู้สึกตื่นเต้นทุกขั้นตอนเลย แต่อย่างไรก็ดี นุ้ย บอกว่า นุ้ย ก็คือ นุ้ย สุวีณา คนเดิม ที่เพิ่มเติมก็แค่ สวยขึ้น ... ฮิ้วววว

เห็นภาพสาวปากแดงของนุ้ย แล้วนึกได้ว่าประวัติของสาวคนนี้ไม่ธรรมดาเลยเสิร์ชหาข้อมูลของเธอกันหน่อย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


นุ้ย สุวีณา อาร์ สยาม หรือวีณา อำภัยทอง ชื่อเล่น จอย เกิดวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2526 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ภูมิลำเนาเดิม เป็นคนจังหวัดสตูล ปัจจุบัน อาศัยอยู่ ตำบลขุนตัดหวาย อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ผู้หญิงมี 4 คน ผู้ชาย 1 คน นุ้ยเป็นลูกคนที่ 2 ฐานะทางบ้านค่อนข้างลำบาก ต้องย้ายที่อยู่บ่อยแล้วแต่สถานการณ์ทางการเงินในครอบครัวจะพาไป ปัจจุบันครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา อาชีพหลักของครอบครัวคือรับจ้างกรีดยาง

ชีวิตในวัยเด็ก
นุ้ย มีความฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเหตุและปัจจัยต่างๆที่หล่อหลอมให้นุ้ยเป็นคนรักในเสียงเพลงคือ "แม่" เนื่องจากตอนเด็กๆ (ประมาณ 4 ขวบ) ทุกครั้งที่พ่อกับแม่จะต้องไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อรับจ้างกรีดยาง ท่านจะต้องพานุ้ยไปอยู่ด้วยเสมอ นุ้ยจึงมีโอกาสได้อยู่กับแม่มากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ แม่เป็นคนรักในเสียงเพลงมากและแม่เองก็เคยมีความฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง "เราสองคนจึงมีความฝันอันเดียวกัน" ตอนเด็กแม่ชอบร้องเพลงให้นุ้ยฟังและชอบสอนนุ้ยร้องเพลง วันหนึ่งมีงานประกวดร้องเพลงแถวบ้าน นุ้ยบอกแม่ว่า นุ้ยอยากเป็นนักร้อง และอยากไปประกวดร้องเพลง จำได้ว่าเพลงที่แม่สอนนุ้ยร้องบ่อยๆ คือเพลงนักร้องบ้านนอกและเพลงสยามเมืองยิ้ม ของแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์

ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นวัยรุ่น นุ้ยเป็นคน อ้วน ตัวดำ ผมหยิก ซึ้งรูปร่างหน้าตาของนุ้ยขัดกับสิ่งที่นุ้ยฝันอยากจะเป็นมากเวลาไปโรงเรียน นุ้ยมักจะโดนเพื่อนล้อเสมอ นุ้ยรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย จึงพยายามลบปมด้อยของตัวเองด้วยการตั้งใจเรียนและมันก็เป็นผลดีสำหรับนุ้ย นุ้ยจัดว่าเป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 ที่ 2 ของห้องเป็นประจำ และถ้ามีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับเสียงเพลงนุ้ยเองก็ไม่เคยพลาด จนนุ้ยกลายเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ และนุ้ยรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ถึงแม้ว่าจะมีบ้างที่แอบน้อยใจ กับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง จนนุ้ยอายุได้ 16 ปี จากนั้นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายก็เริ่มเกิดขึ้นกับตัวนุ้ย ไม่น่าเชื่อว่าน้ำหนักนุ้ยเริ่มลดลงมากๆจนไม่มีใครเชื่อว่าเป็นนุ้ยคนเดิมเพราะจากที่น้ำหนัก เจ็ดสิบกว่าเหลือไม่ถึงหกสิบกิโล ทำให้ความฝันที่อยากเป็นนักร้องเริ่มใกล้กับความเป็นจริงมากขึ้นจากวันนั้นนุ้ยก็กล้าบอกใครต่อใครว่านุ้ยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง

พอเข้ามหาลัย นุ้ยก็ลงทะเบียนเรียน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และก็ตระเวรประกวดร้องเพลงไปเรื่อยๆเพื่อหาประสบการณ์และหนทางเข้าสู่วงการ พร้อมกับทำงานไปด้วยนุ้ยใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้เป็นปีๆ แต่ก็ยังไม่เห็นหนทางที่จะเดินไปให้ถึงฝันได้เลยตัวนุ้ยเองท้อมาก แต่ก็ได้แม่คอยเติมเชื้อไฟแห่งฝันให้ตลอด จนเมื่อปี พ.ศ. 2547 นุ้ยได้มาประกวดร้องเพลงที่รายการชุมทางเสียงทอง ถึงแม้การประกวดครั้งนั้นนุ้ยจะตกรอบ แต่ก็เป็นการตกรอบที่คุ้มค่า เพราะจากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้นุ้ยเริ่มเปลี่ยนแผนใหม่ในการตามล่าฝัน

ก้าวสู่วงการเพลง
นุ้ยตัดสินใจออกจากบ้านเข้ากรุงเทพฯ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2548 เพื่อตามล่าฝันโดยมีแม่เป็นกองหนุนอยู่ที่บ้าน จากนั้นมานุ้ยจึงกลายเป็นความหวังของครอบครัว ตอนนั้นนุ้ยมีความรู้สึกเหมือนตัวเองต้องไปทำศึก เพื่อเอาชัยชนะมาฝากคนที่บ้าน แรกๆก็มีกำลังใจเต็มเปี่ยมเพื่อเตรียมเป็นเสบียงในการออกรบ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปอะไรๆก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเจอปัญหาหนักเข้า เสบียงที่เตรียมไปเริ่มร่อยหรอลงทุกทีๆ จนแม่ทัพอย่างนุ้ยเองก็เริ่มท้อ และมีหลายครั้งที่อยากหันหลังกลับบ้านแต่พอนึกถึงความเป็นอยู่ของที่บ้านและภาพที่ทุกคนกำลังรอความสำเร็จจากนุ้ย จึงทำให้นุ้ยเดินถอยหลังกลับไปไม่ได้ นุ้ยจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อไปถึงแม้ว่าทุกๆก้าวของนุ้ยจะเดินไปพร้อมๆกับน้ำตา

นุ้ยใช้เวลา 3 ปีเต็มๆ ในการตามล่าฝันอย่างจริงจัง จนวันหนึ่งนุ้ยมีโอกาสได้รู้จักกับ อาจารย์ปาน ประกาศิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นครูคนที่ 2 ถัดจากแม่ของนุ้ย อาจารย์ปาน เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สอนให้นุ้ยเข้าใจโลกนี้มากขึ้น และเป็นอีกคนหนึ่งที่ทำให้ฝันของนุ้ยเป็นจริง อาจารย์ปาน ประกาศิต และพี่วิทย์ มหาชน ได้ทำงานเพลงให้กับนุ้ยและนำไปเสนอให้กับ บริษัทวังทองมิวสิค นุ้ยจึงได้ออก อัลบั้มชุดแรก เมื่อปี พ.ศ. 2550 ชื่อชุด "ฟ้ากว้างกลางกรุง" เพลงในอั้มบั้มที่ทำให้คนรู้จัก นุ้ย สุวีณา คือเพลง ปากหนักแต่รักจริง

ต่อมา อ.ปาน ประกาศิต พี่วิทย์ มหาชน ก็ได้ทำเพลงชุดใหม่ให้กับนุ้ยและนำเสนอ ให้กับบริษัท อาร์สยาม โดยเข้ามาให้ทาง คุณศุภชัย นิลวรรณ พิจารณา ความรู้สึกตอนนั้นกระวนกระวายบอกไม่ถูก ทั้งครอบครัวภาวนาขอให้งานผ่าน ไม่นานก็มาเปิดโทรศัพท์ดู ก็ได้ข่าวดีเมื่อ อ.ปาน ประกาศิต ส่งข้อความบอกนุ้ยว่า "งานผ่านแล้ว นุ้ยจะได้เป็นนักร้องในสังกัดอาร์สยามแล้ว

และผลงานเพลงกับค่ายอาร์สยาม ก็ทำให้ชื่อของนุ้ย สุวีณา เป้นที่รู้จักตั้งแต่ชุดแรก กับเพลงจังหวะดสนุกๆ นุ้ยสั่งแฟน และเพลงช้ากินใจคนใต้อย่าง บัณฑิตกรีดยาง มาทีหลังหวังแต่ง คนนี้แฟนฉัน เทียนไขไฟฟ้า ไม่มีคู่แค่เหงาไม่มีเขาแค่โสด ไม่อยากใช้แฟนร่วมกันกับใคร นุ้ยเคยไลน์ และล่าสุดกับเพลงรักเธอไม่ได้จริงๆ ที่ปล่อยเพลงออกมาแล้ว ส่วนมิวสิคคงรอกันอีกไม่นาน อย่าลืมติดตามให้กำลังใจสาวสายเลือสงขลาบ้านเรากันเยอะๆ นะครับ

ต้อม รัตภูมิ รายงาน