[สงขลามีเดีย]

สาธารณสุขพัทลุง เตือนประชาชนเฝ้าระวังการระบาดของไข้เลือดออกช่วยหน้าฝน โดยช่วยกันกำจัดยุงลายพาหะของโรค

นายแพทย์สาธิต ไผ่ประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกจังหวัดพัทลุง มีรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 – 27 กันยายน 2557 จำนวน 462 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 89.81 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต พบผู้ป่วยเพศชาย 235 ราย เพศหญิง 227 ราย กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 15 - 24 ปี จำนวนผู้ป่วยเท่ากับ 125 ราย รองลงมาคือกลุ่ม 10 – 14 ปี จำนวน 86 ราย อาชีพที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือนักเรียน เท่ากับ 229 ราย

เดือนมกราคมพบผู้ป่วย 50 ราย กุมภาพันธ์ จำนวน 57 ราย มีนาคม 38 ราย เมษายน 30 ราย พฤษภาคม 28 ราย มิถุนายน 86 ราย กรกฎาคม 51 ราย สิงหาคม 78 ราย และกันยายน 44 ราย อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุดคืออำเภอควนขนุน อัตราป่วยเท่ากับ 171.25 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคืออำเภอตะโหมด 112.49, ปากพะยูน 106.51 บางแก้ว 92.55, ป่าพะยอม 82.33, ศรีบรรพต 81.04, เมืองพัทลุง 72.77, กงหรา 56.64, ป่าบอน 54.05, เขาชัยสน 49.60 และศรีนครินทร์ 41.69 ต่อแสนประชากร

นายแพทย์สาธิต ไผ่ประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ภาคใต้มีฝนตกชุกอยู่อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มผู้ป่วยไข้เลือดออก อาจยังคงที่หรือเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ/โรงพยาบาลทุกแห่ง รณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนทุกหลังคาเรือน และผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ ศูนย์เด็กเล็ก ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้าน ในโรงเรียนทุก 7 วัน และทำอย่างต่อเนื่อง ดูแลความสะอาดสถานที่ กำจัดขยะที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุง อย่าปล่อยให้มีน้ำขัง ซึ่งจะเป็นการควบคุมจำนวนยุงลาย และลดผู้ป่วย ลดผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

นายแพทย์สาธิต กล่าวต่อว่า สัญญาณอันตราย ของไข้เลือดออก ต้องระวังในกลุ่มที่กำลังป่วยและอยู่ในช่วงที่ไข้ลด ต้องเฝ้าดูอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด 24-48 ชั่วโมง เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการรุนแรงหลังไข้ลด โดยให้สังเกตอาการที่เป็นสัญญานของอาการช็อค ดังนี้ คือ ผู้ป่วยมีอาการซึม อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว มีอาการปวดจุกแน่นในบริเวณท้องด้านขวา อาจมีเลือดกำเดาออก เลือดออกตามไรฟัน ถ่ายเป็นเลือด หรือเป็นประจำเดือน หากมีอาการหนึ่งอาการใด ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

การระบาดของโรคไข้เลือดออกที่สำคัญคือ ยุงลายที่เป็นพาหะของโรคที่มีอยู่ชุกชุมในทุกชุมชน ต้องอาศัยความตระหนักและความร่วมมือของประชาชนและสังคม ช่วยดำเนินการเป็นสำคัญ จึงจะได้ผลดียิ่งขึ้น และอย่าลืมมาตรการ 5ป 1ข ได้แก่ ปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกชนิด เปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะกักเก็บน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ปฏิบัติเป็นประจำให้เป็นนิสัย และ 1ข คือ ขัดภาชนะที่อาจมีคราบไข่ยุงเกาะอยู่ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันไม่ให้ยุงกัดด้วยการนอนในมุ้งและทายากันยุง พร้อมทั้งการค้นหาผู้ป่วยโดยเร็ว เพราะหากผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกและได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ อย่างถูกต้อง จะลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้

ที่มา - สนง.ปชส.พัทลุง