[ฅนสองเล]

ออฟไลน์ JaY_SoniC
ผู้สื่อข่าวอิสระ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ก.ค. 56 นายจวน รัตตพันธ์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.6 ต.บ้านใหม่ อ.ระโนด จ.สงขลา พร้อมด้วย นางธิดารัตน์ สังข์ทอง อายุ 21 ปี ลูกสะใภ้ รวมทั้งญาติๆ ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย (สนต.) และ สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) หลังจากที่ นายศักดิ์ชัย รัตตพันธ์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ นายจวน และเป็นสามีของ นางธิดารัตน์ ได้ตายอย่างมีเงื่อนงำจากอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับคู่กรณี และผลจากการส่งศพไปชันสูตที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) พบว่า บริเวณใบหน้าและสมองได้รับบาดเจ็บจากวัตถุของแข็งไม่มีคม รวมทั้งยังพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นในซอกเล็บมือของผู้ตายอีกด้วย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งรัดและคลี่คลายคดีนี้ที่กินเวลามาแล้วกว่า 5 เดือน ด้วยความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด

นายจวน เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 10 มี.ค. 56 ซึ่งเป็นวันเวลาที่เกิดเหตุ นายศักดิ์ชัย บุตรชายของตน ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน คกร-893 สงขลา ออกจากบ้าน เพื่อเดินทางกลับไปหาภรรยาที่อยู่คนละตำบลกัน โดยเมื่อบุตรชายขับรถออกมาจากบ้านได้ประมาณ 2 กิโลเมตร ได้เกิดอุบัติเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของ นายนฤพรรณ ดิสโร อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ที่ขับรถตัดหน้าบริเวณถนนสายหัววัง-มาบเตย ม.6 ต.บ้านใหม่ จนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ หลังจากนั้น นายนฤชาติ รัตติโชติ ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ได้โทรมาหาตน และบอกว่า นายศักดิ์ชัย ได้ประสบอุบัติเหตุรถชน และได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลระโนดแล้ว หลังจากนั้นตนพร้อมญาติๆจึงได้พากันไปดูอาการของ นายศักดิ์ชัย ที่โรงพยาบาลระโนด แต่ก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด จึงได้เดินทางวกกลับมายังที่เกิดเหตุ และพบกับความสะเทือน เมื่อ นายศักดิ์ชัย ได้นอนแน่นิ่งกลายเป็นศพไปแล้ว

นายจวน เผยต่อว่า ด้วยความเคลือบแคลงสงสัยในสาเหตุการตายของบุตรชาย เนื่องจากมองดูสภาพโดยรวมแล้วไม่ใช่อุบัติเหตุที่รุนแรง และคู่กรณีก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแค่ศีรษะแตกและมีรอยถลอกที่แขนเท่านั้น โดยในวันที่ 14 มี.ค. 56 จึงได้ตัดสินใจนำศพ นายศักดิ์ชัย บุตรชาย ไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดที่หน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งผลก็ออกมาว่า ที่บริเวณใบหน้าและสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกของแข็งไม่มีคม ฟันหน้าทั้งบนและล่างหักจนเกือบหมด นอกจากนั้นที่บริเวณคอหอยมีร่องรอยคล้ายกับการถูกกดรัด มีเลือดออกบริเวณเนื้อเยื่อรอบกระดูกเหนือกล่องเสียงทั้งซ้ายและขวา และที่สำคัญคือแพทย์ได้ตรวจพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นจากซอกเล็บมือของผู้ตายอีกด้วย จึงเป็นการยืนยันที่ชัดเจนว่าบุตรชายของตนน่าจะเสียชีวิตเพราะถูกรุมทำร้ายร่างกาย เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านของคู่กรณี ซึ่งมีการตั้งวงกินเหล้ากันทุกคืน และการโทรศัพท์มาลวงให้ไปดูอาการของบุตรชายที่โรงพยาบาลก็เป็นประเด็นที่น่าสงสัยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ นายจวน รวมทั้งลูกสะใภ้ และญาติๆ ได้เรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว เนื่องจากมีเงื่อนงำที่น่าสงสัยหลายอย่าง และเวลาก็ล่วงเลยมานานกว่า 5 เดือน โดยที่ศพก็ยังไม่ได้เผา เพื่อรอเอาตัวคนผิดมาลงโทษ โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 56 ทางญาติได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมในคดีต่อ พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 เพื่อให้รับทราบถึงความเดือดร้อน ขณะที่ทาง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายก สนต. และ สมาชิก สปต. ได้รับเรื่อง และจะพยายามหาช่องทางในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ทางญาติของผู้ตายบอกด้วยว่า หากคดีนี้ยังไม่มีความความคืบหน้าก็จะนำศพมาแห่ประท้วงในเร็วๆนี้อีกด้วย

ด้าน พ.ต.ท.พรพิสิษฐ์ หอมบุตร หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ระโนด จ.สงขลา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่รับเป็นคดีอุบัติเหตุ ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า นายศักดิ์ชัย ผู้ตาย ได้ดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา แล้วขับรถจักรยายนต์ด้วยความเร็วไปกินเลนของฝั่งคู่กรณี จนเกิดอุบัติเหตุรถชนถึงขั้นเสียชีวิต และคู่กรณี คือ นายนฤพรรณ ดิสโร ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งไม่ฟ้องและปิดคดีในส่วนนี้ไปแล้ว เนื่องจาก นายศักดิ์ชัย ซึ่งเป็นฝ่ายผิด ได้เสียชีวิต และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก็ไม่พบว่าผู้ตายได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด

ส่วนในกรณีที่ทางพ่อและครอบครัวของผู้ตายได้นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่หน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เนื่องจากไม่เชื่อว่าลูกชายถูกรถชนตาย และผลปรากฏออกมาว่าสภาพร่างกายโดยเฉพาะที่ศีรษะและลำคอมีร่องรอยคล้ายการถูกทำร้าย รวมทั้งมีเศษชิ้นเนื้อของบุคคลอื่นตามซอกเล็บนั้น ทางตำรวจเองก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่ให้ความกระจ่างในส่วนนี้

โดยหลังเกิดเหตุไม่กี่วันทางตำรวจได้เรียกตัวคู่กรณีและบุคคลที่ทางพ่อของผู้ตายกล่าวอ้างว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกชายรวม 6 คน มาทำการสอบสวน และเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อในกระพุ้งแก้มส่งไปให้ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ตรวจสอบว่าตรงกับผู้ใดหรือไม่ แต่ปรากฏว่าชิ้นเนื้อที่ส่งไปนั้นเกิดเน่าเปื่อย จึงต้องทำการเรียกตัวทั้ง 6 คน มาทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อกันใหม่ ซึ่งกว่าจะมากันครบก็กินเวลาไปหลายวัน หลังจากนั้นก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากทางโรงพยาบาลอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือนสิงหาคมนี้น่าจะทราบผลที่ชัดเจน และสามารถปิดคดีนี้ได้ จึงอยากจะวอนให้พ่อและญาติของผู้ตายรับฟัง และเข้าใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายด้วย
/////