[ฅนสองเล]

ทหารสนธิกำลังร่วมดีเอสไอบุกตรวจอาณาจักร MBI
กลุ่มมาเลย์รายใหญ่ที่ด่านนอก สะเดา พบเงินสด 83 ล.

ทหารสนธิกำลังร่วมดีเอสไอบุกเข้าตรวจสอบ บริษัท MBI GROUP บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจหลักพันล้านในพื้นที่ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ยึดเงินสดหลายสกุลรวมกว่า 83 ล้านบาท ตรวจสอบ

วันที่ 28 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 พร้อมด้วยทหาร กอ.รมน.ภาค 4 สน. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่วนหน้า รวมทั้ง ตำรวจ สภ.สะเดา และเจ้าหน้าที่ที่ดิน และ พาณิชย์จังหวัดสงขลา บุกเข้าตรวจสอบ บริษัท MBI GROUP ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ประกอบด้วยโรงเเรม 6 เเห่ง , รีสอร์ท 2 แห่ง , อพาร์ทเม้น 9 แห่ง และ หมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน ทั้ง สวนไดโนเสาร์ , เมืองคาร์บอย , ฟิวเจอร์ปาร์ค , ฟาร์มม้า และ สวนแพนด้า รวมเงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท

สำหรับ บริษัท MBI GROUP ได้จดทะเบียนในนามของบริษัทจำนวนหลายบริษัท โดยมีชาวมาเลเซีย 1 คน คือ นายเตียว วุย ฮวด เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท รวมทั้ง น.ส.นันทภัค ภานุวัฒนากูล และ นายนพโรจน์  ศิริพัฒนธนภาค เป็นคณะผู้บริหารของบริษัท และทำหน้าน้าที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจต่างๆใน อ.สะเดา จ.สงขลา

โดยจากการเข้าตรวจค้นที่โรงแรม THE WAI พื้นที่ ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับ บริษัท MBI GROUP พร้อมกับตรวจยึดเงิน ทั้งเงินไทย เงินริงกิตมาเลเซีย เงินดอลล่าห์ไต้หวัน และ เงินหยวนของจีน ได้รวมกันกว่า 83 ล้านบาท โดยเงินทั้งหมดถูกเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเดินทางภายในห้องพักชั้น 4 ห้อง 401

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจยึดเงินทั้งหมดไว้ตรวจสอบถึงที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งให้ ปปง. และ DSI ทำการสอบสวน และตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินทั้งระบบ และการเข้ามาจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย

ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยว่า โรงแรมทั้ง 6 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลสำนักขามที่เป็นของบริษัทแห่งนี้ มี โรงแรม เคพีเค ที่เป็นโรงแรมชื่อดัง ซึ่งที่ผ่านมาเป็นโรงแรมที่ มีข้าราชการผู้ใหญ่จำนวนมากร่วมถือหุ้น และใช้เป็นแหล่งหาความสำราญ รวมทั้งเป็นแบ็คอัพในทางกฎหมาย โดยที่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนกล้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ทั้งๆที่แหล่งบันเทิงในโรงแรมดังกล่าว ทำผิดกฎหมาย ทั้งในเรื่องการเปิดเกินเวลา และอื่นๆ

นอกจากนั้นยังมีการตรวจสอบพบอีกว่า คดีฆ่านักลงทุน 1,000 ล้าน ชาวมาเลเซีย คือ นาย ลี อา ฮาน ที่ถูกมือปืนประกบยิงเสียชีวิตในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อราว 2 เดือนก่อนนั้น มีการพัวพันกับบริษัทดังกล่าว เนื่องจากที่ดินหลายแปลงที่บริษัทนี้ถือครอง และใช้สร้างโรงแรม และอื่นๆนั้น เป็นที่ดินที่ ซื้อมาจาก นาย ลี อาฮาน และ นาย ลี อา ฮาน เคยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทนี้มาก่อนด้วย

แหล่งข่าวความมั่นคง เปิดเผยต่อไปว่า ได้ติดตามการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทนี้มาแล้วระยะหนึ่ง เนื่องจากพบข้อสงสัยในการเข้ามากว้านซื้อที่ดิน และการทำธุรกิจในพื้นที่หลายอย่างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ทำธุรกิจผิดกฎหมายหลายกลุ่ม และมีอิทธิพลในพื้นที่ อีกทั้งยังพบว่า เงินที่มีการยึดไว้เอาไว้ตรวจสอบนั้น อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย