[สงขลามีเดีย]

สมาชิก สนช. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน พร้อมหารือกับหน่วยงานภาครัฐ  เพื่อสะท้อนปัญหาและความต้องการสู่รัฐบาล ตามโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ณ จังหวัดสงขลา

(9 ก.ค.59) ณห้องประชุมอาคารศรีเกียรติพัฒน์  องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ณ จังหวัดสงขลา โดยนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากล่าวต้อนรับคณะ สนช. นำโดยนายพีระศักดิ์  พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง พร้อมด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 29 คน ซึ่งเป็นผู้แทนจากคณะกรรมาธิการสามัญคณะต่างๆ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในด้านต่างๆ จากประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 500 คน

ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนภาคเอกชน และตัวแทนภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภายใต้บทบาทอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังเป้าหมายที่ว่า "  สะท้อนปัญหา  นำพาแก้ไข ห่วงใยประชาชน  "โดยปัญหาที่พบในส่วนใหญ่เกี่ยวกับ การคมนาคม ที่ดินทำกินและพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเหมือนกับจังหวัดอื่น ๆที่ สนช. ได้ลงพื้นที่จัดโครงการมาก่อนหน้านี้       

จากนั้นเวลา 13.00 น. คณะ สนช.ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา(นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา) กล่าวต้อนรับและบรรยายสรุปข้อมูลจังหวัดสงขลาในประเด็นโครงการสำคัญที่จะให้ สนช. ผลักดันหลังจากนั้นคณะ สนช. นำโดย นายพีระศักดิ์  พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ประชุมหารือข้อราชการร่วมกับผู้แทนของส่วนราชการต่างๆ ของจังหวัดสงขลา จำนวน 200 คนในประเด็น "การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการสาธารณะ เพื่อผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งของภาคใต้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน"

และในเวลา 14.15 น. นายพีระศักดิ์  พอจิต ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ห้องประชุม Conference ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการในครั้งนี้ว่า สนช.  ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ในการรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะ สะท้อนไปยังรัฐบาลเพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง และในส่วนของจังหวัดสงขลาจากการได้พบปะกับกลุ่มสตรีจังหวัดสงขลาและกลุ่มสตรีมุสลิมพบว่ากลุ่มสตรีให้ความสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญสูงมากและประสงค์เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงาน แต่อยากจะให้ภาครัฐให้ความสำคัญมากกว่านี้ ซึ่งทาง สนช. จะได้นำประเด็นนี้ไปหารือและผลักดันให้เป็นรูปธรรมต่อไป