[สงขลามีเดีย]

เจาะเส้นทางการเมืองที่ไม่ทำธรรมดาของ "นายกชาย" กับโจทย์ที่ท้าทาย ประชาธิปัตย์ขาลง

เดชอิศม์ ขาวทอง ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นชินแต่หากบอกว่านายกชาย เชื่อว่าคนสงขลาทั้งจังหวัดรู้จักดี นายกชายเดิมชื่อนายวรวิทย์ ขาวทอง อดีตสจ.เขตอำเภอรัตภูมิ 2 สมัย อดีตนายกอบจ.สงขลา 2 สมัย เป็นนายกอบจ.ยุคแรกๆ ที่สจ.เลือกกันเอง ก่อนมาเปลี่ยนกตกาเป็นการเลือนายกโดยตรง นายกชาย พ่ายการเลือกตั้งถึง 3 ครั้ง และยังเคยพ่ายในการลงสนามใหญ่ในนามพรรคไทยรักไทยอีก 1 ครั้งด้วย

นายกชาย เคยเล่าถึงเส้นทางการเมืองว่าความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของตัวเองทุกครั้งแพ้เพราะคู่แข่งอ้างความเป็นประชาธิปัตย์ และโจมตีว่าตนเองไม่ใช่คนประชาธิปัตย์ ทั้งที่มีความผู้พันธ์ทำงานใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในพรรคมาโดยตลอด ในยุคที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ขยับขึ้นไปเป็นสส.บัญชีรายชื่อตัวเองก็เสนอตัวขอลงสส.เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ แต่ยุคนั้นพรรคเลือนายประพร เอกอุรุ ซึ่งเป็นคนอำเภอเมืองมาลงเขตรัตภูมิ จึงตัดสินใจไปลงแข่งขันเพราะอยากให้คนรัตภูมิได้มีโอกาสเป็นผู้แทนกับเขาบ้าง

ถ้าดูจากประวัติและเส้นทางการเมืองต้องบอกว่า "เจ็บมาเยอะ" จนนายกชายเคยประกาศว่าไม่มีพรรคมีแต่พวกไม่ลงสนามการเมืองแล้ว เพราะสส.เขต 5 ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่ออดีตสส.ประพร เอกอุรุ เสียชีวิตอย่างกระทันหัน นายกชาย ในฐานะคนรัตภูมิ คนเขต 5 ก็ได้รับการผลักดันจากถาวร เสนเนียม ให้มาลงสนามใหญ่อีกครั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับชัยชนะอย่างสวยงามในการเลือกตั้งเมื่อมีนาคม 2562 สวนทางกับผู้สมัครหน้าเก่า หน้าใหม่ หลายคนของพรรคในภาคได้ที่สอบตกเสียที่นั่งให้คู่แข่งไปจำนวนมาก

เจ้าของสโลแกน "ใจถึงพึ่งได้" แม้เข้าสภาแค่สมัยเดียวแต่ก็มีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมายในและนอกพรรค ในยุคที่พรรคอยู่ในช่วงขาลงแต่เป็นขาขึ้นของนายกชาย ว่ากันว่าเขาเป็นสายตรงของเลขาต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และเป็นผู้ผลักดันให้ขึ้นมาทำหน้าที่รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนที่สส.สมัยแรกจะได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารระะดับสูงของพรรค และเมื่อรับตำแหน่งก็มีโจทย์ใหญ่ให้ทำทันทีคือการเลือกตั้งซ่อมสงขลาเขต 6 และชุมพรเขต 1 ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของพรรคและมีคู่แข่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐส่งลงชนแบบแข่งขันเต็มสูบด้วย

การเลือกตั้งซ่อมก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ เสียที่นั่งให้พลังประชารัฐ ที่นครศรีธรรมราชมาแล้ว จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ชุมพรและสงขลาที่จะพิสูจน์ฝีมือรองหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยเฉพาะที่เขต 6 ถาวร เสนเนียม หลังพ้นจากตำแหน่งก็โบกมือลาพรรคทันทีปล่อยให้การสรรหาผู้สมัครคนใหม่เป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรคคนใหม่ทันที ทาบทามไปหลายคนก็ไม่ได้ที่ต้องการจนที่ประชุมผู้ทำท้องถิ่น ท้องที่ ผู้สนับสนุนพรรคเสนอชื่อคุณน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล ภรรยาคนสวยของนายกชายที่ทำหน้าที่รองนายกอบจ.สงขลา ให้มาลงสนามเขต 6 แทน แม้จะมีกระแสโจมตีบ้างแถมพรรคคู่แข่งก็แข็งโป๊กแต่ชัยชนะเป็นประชาธิปัตย์ทั้ง 2 เขต

ภาพลักษณ์ของพรรคในภาคใต้กำลังจะดีขึ้นจากนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ราคายาง ราคาปาล์ม ก็ดีขึ้นซึ่งเป็นผลงานพรรคที่คุมกระทรวงพาณิชย์และเกษตรฯ โดยตรง แต่มาเจอมรสุมลูกใหญ่อีกครั้งเมื่อเครือญาตินายกชาย ถูกคดีบุกรุกที่เขาแดง-เขาน้อย เขตโบราณสถานในอำเภอสิงหนคร และมีการพยายามนำมาเป็นประเด็นการเมืองเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ แต่มรสุมลูกนี้ไม่ใหญ่เท่ามรสุมจากรองหัวหน้าพรรคอีกคน ที่ทำเอาพรรคสั่นคลอนผู้ใหญ่หลายคนขอลาออกจากพรรคอีกรอบ หลังจากก่อนหน้านี้ออกไปพอสมควรแล้ว

อย่างช้าที่สุดก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ปีก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่หลายคนเชื่อว่าจะเร็วกว่านี้เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองทุกพรรคต่างเร่งทำผลงาน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.กันแล้ว เช่นกับที่พรรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ แม่ทัพใหญ่ 2 คนก็อยู่สงขลา นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคสายตรงหัวหน้าจุรินทร์ ส่วนเดชอิศม์ ขาวทอง รองสายตรงเลขาเฉลิมชัย ซึ่งธรรมเนียมพรรคนี้เขาชัดเจนว่าหากเลือกตั้งแล้วสส.ลดลงหัวหน้าพรรคต้องลาออกแสดงความรับผิดต่อผลงานตัวเอง

ในส่วนของหัวหน้าพรรคแม้ไม่เคยพูดแต่หากผลงานไม่ดีก็อยู่ยาก แต่เลขาเฉลิมชัย ประกาศไว้แล้วว่าได้น้อยกว่าเดิมจะเลิกเล่นการเมืองเลยทีเดียว รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ก็ประกาศไว้ที่ 35 จาก 58 ที่นั่งในภาคใต้จากปัจจุบันที่มี 21 ที่นั่ง และที่่สงขลาเที่ยวหน้ามี 9 เขต ตอนนี้มี 3 ที่นั่งเที่ยวหน้าต้องได้มากกว่าเดิมเท่านั้น ซึ่งว่างตัวผู้สมัครไว้ครบแล้วว่ากันว่าล้วนเป็นสายตรงจาก 2 รองหัวหน้าพรรคทั้งนั้น ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แน่นอนว่านายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง ต้องทำงานหนักมากเพราะสนามภาคใต้ไม่ง่ายเหมือนในอดีตแล้ว